เข้าซื้อหุ้น บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) และซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน ร้อยละ 19.00 ของ จำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมด โดยธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์ ณ วันที่่ 15 พฤศจิกายน 2566 ทำให้ธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านของเอไอเอสมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยฐานลูกค้ากว่า 4.7 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ และก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดอินเทอร์เน็ตบ้านของประเทศไทยด้วยโครงข่ายที่ครอบคลุมกว่า 13.3 ล้านครัวเรือน
ได้รับโอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 700MHz (ความกว้าง 2 x 5MHz) ต่อจากบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (“เอ็นที”) ในเดือนตุลาคม 2566 โดยระยะเวลาใบอนุญาต 15 ปี เริ่มตั้งแต่่ปี 2564 และหมดอายุวันที่ 31 มีนาคม 2579 ช่วยให้เอไอเอสสามารถขยายบริการ 5G ครอบคลุมพื้นที่่ห่างไกลในต่างจังหวัดและบริเวณอาคารสูงได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งยกระดับความจุโครงข่ายเพื่อรองรับความต้องการใช้ 5G ที่่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ลงนามในสัญญากับบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (“เอ็นที”) สำหรับการให้เอ็นทีเช่าใช้อุปกรณ์โครงข่ายของเอไอเอสจำนวน 13,500 สถานี เพื่อให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 5G บนคลื่นความถี่ย่าน 700MHz ที่ NT มีใบอนุญาตถือครอง รวมทั้งให้บริการข้ามโครงข่ายโทรคมนาคมภายในประเทศ (Roaming) แก่ NT เป็นระยะเวลา 13 ปี โดย AWN ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ AIS จะได้รับค่าเช่าใช้อุปกรณ์จาก NT ตามที่กำหนดไว้ในสัญญา
ได้รับรางวัล Microsoft Best Partner of the year ประจำปี 2566 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 และเป็นรายเดียวในประเทศไทย ซึ่งไมโครซอฟท์ได้มอบให้กับพันธมิตรชั้นนำระดับโลกที่สามารถส่งมอบบริการที่เหนือกว่าในด้านนวัตกรรมให้กับลูกค้าโดยอาศัยเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ โดยคัดเลือกจากพันธมิตร 3,900 รายจากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
ลงนามความร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยมีเป้าหมายหลักในการผลักดันและสนับสนุนการทำงานของผู้ประกอบการโรงงานขนาดกลางและขนาดย่อม ให้มีขีดความสามารถใหม่ ๆ สามารถลดต้นทุนเพิ่มประสิทธิภาพการทำ งานของกระบวนการผลิตเครื่องจักรทั้งในเรื่องของการเพิ่มความแม่นยำ การวิเคราะห์ วัดผล และระบบติดตามผลด้วยเทคโนโลยี IoT พร้อมโซลูชัน AIS 5G Manufacturing Platform บน PARAGON Platform
ลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่าง AIS และ PTTGC เพื่อเป้าหมายการร่วมสร้างต้นแบบองค์กรที่่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนด้วยศักยภาพโครงข่ายอัจฉริยะ ยกระดับกระบวนการทำงานด้วยเทคโนโลยีโซลูชันสีเขียว และแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมแบบองค์รวม เพื่อร่วมกันพัฒนาต่อยอดธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคมในฐานะ Good Corporate Citizen เพื่อสร้างการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน
ร่วมกับ GULF และ Singtel เดินหน้าก่อสร้างโครงการดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดกว่า 20 เมกะวัตซ์ ในจ.สมุทรปราการ ภายใต้บริษัทร่วมทุน จีเอสเอ ดาต้า เซ็นเตอร์ จำกัด (GSA) โดยเป็นศูนย์ข้อมูลที่มุ่งเน้นใช้พลังงานสะอาด และการบริหารจัดการพลังงาน ที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงมีระบบการเก็บรักษาข้อมูลที่ปลอดภัยสูงสุด พร้อมตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าองค์กรและผู้ให้บริการคลาวด์ในไทยและต่างประเทศ โดยมีแผนจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปีพ.ศ. 2568